ประวัติ วัดมหาธาตุเจติยาราม
Mahadhatujetiyaram
Temple,
4691 Royal Palm Beach
Blvd., West Palm Beach, Florida 33411 USA
----------------------------
๑.
ประวัติ และความเป็นมาของการสร้างวัด
เดิมที่เมืองเวสต์
ปาล์มบีช รัฐฟลอริด้า มีคนไทยมาอาศัยตั้งหลักปักฐานบ้างแล้ว
และที่สำคัญเป็นเมืองห่างไกลจากวัดวาอารามวิหารลานบุญ
เมื่อถึงเทศกาลงานบุญแต่ละครั้ง ต้องใช้เวลาในการเดินทางไกลไปทำบุญตามวัดต่างๆ
บ้างก็ไปทำบุญ ที่วัดพุทธรังษี เมืองไมอามี่ วัดมงคลรัตนาราม เมืองแทมป้า บ้างก็เดินทางไปทำบุญที่วัดฟลอริด้าธรรมาราม
เมืองคิสมี้ บ้างก็ไปทำบุญที่
วัดปุญญวนาราม เมืองเมลเบริน ถึงระยะทางจะห่างไกลเพียงไหนก็ตาม ย่อมไม่เป็นอุปสรรคต่อคณะผู้มีศรัทธาขวนขวายในการสร้างบุญกุศล
วัดพุทธรังษี เมืองไมอามี่ ซึ่งในสมัยนั้นมีพระครูศรีพิพัฒนาภรณ์ (สุรเชษฐ์ ปรกโม)[1] เป็นเจ้าอาวาส ท่านมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล
มองเห็นความสำคัญด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และวัฒนธรรมไทย จึงได้จัดส่งพระธรรมทูต
ที่มีความรู้ความสามารถด้านภาษาไทย มาเปิดการเรียนการสอนภาษาและวัฒนธรรม
ให้กับลูกหลานชาวเมืองเวสต์ปาล์มบีช ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองไมอามี่ โดยการนำของ
พระมหาทูลถวาย วชิรญาโณ* พระธรรมทูตรุ่นที่ ๑ ในขณะนั้น
ท่านกำลังปฏิบัติศาสนกิจ ณ วัดพุทธรังษี เมืองไมอามี่
พระมหาทูลถวาย วชิรญาโณ
ได้รับความเมตตานุเคราะห์จากท่านเจ้าอาวาส ในการเป็นผู้นำความรู้ทางด้านศาสนา ภาษา
และวัฒนธรรม มาเผยแผ่แก่เยาวชนลูกหลานไทยในเมืองเวสต์ ปาล์ม บีช
โดยมีคณะอุบาสกอุบาสิกาเมืองเวสต์ ปาล์ม บีช เป็นผู้อุปถัมภ์
จึงเป็นจุดกำเนิดของกลุ่มชนคนไทย โดยอาศัยบารมีแห่งธรรมของพระพุทธเจ้า
เป็นสายใยเรียงร้อยหัวใจของกลุ่มคนชาวไทยให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ จึงเกิดมีแนวความคิดที่จะสร้างวัดให้เป็นพุทธสถาน
ในการเผยแพร่ประเพณีวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังเป็นลานทำบุญในเทศกาลต่างๆ
อีกด้วย
แนวความคิดเหล่านี้ถูกจารึกไว้ในจิตใจของท่านพระมหา
ผู้ที่ได้มาสัมผัสกลิ่นอายแห่งบุญกุศลที่ชุมชนนี้ต้องการเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อครบวาระของการปฏิบัติศาสนกิจ ณ วัดพุทธรังษี ท่านพระมหาทูลถวาย
จึงได้ออกเดินทางเพื่อศึกษาหาความรู้วิธีและแนวทางในการบริหารจัดการวัดวาอารามตามวัดต่างๆ
พร้อมเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากท่านเจ้าอาวาสหลายวัด และหลายรัฐด้วยกัน ๕
ปีแห่งการเป็นนักแสวงหา และประสบการณ์อันล้ำค่า ภายใต้ของคำว่า “พระธรรมทูต” บวกกับกำลังกาย
กำลังใจ และกำลังความคิดที่จะสร้างพุทธสถานลานบูชาธรรมร่วมกับชาวเมืองเวสต์ ปาล์ม บีช
ไม่เคยเลือนลางจางหายไป
ต่อมาท่านมหาทูลถวาย
ได้พบกับท่านพระมหาวิเลิศ ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย
จึงได้ปรารภเรื่องการสร้างวัดและได้อาราธนาท่านให้มาช่วยดำเนินการเปิดวัด ที่เมืองเวสต์
ปาล์ม บีช รัฐฟลอริด้า
ซึ่งท่านก็มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการขยายฐานการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข และเพื่ออนุเคราะห์สาธุชนพุทธบริษัทชาวเมืองเวสต์ ปาล์ม
บีช ทั้งหลายที่กำลังต้องการที่พักพิงทางจิตใจ ท่านทั้งสองจึงได้เดินทางมาและนำพาญาติโยมไหว้พระสวดมนต์
เจริญสมาธิภาวนา ญาติโยมจำนวนหนึ่งเกิดความชอบใจและหาบ้านเช่าให้
เพื่อเป็นสถานที่รวบรวมผู้มีจิตศรัทธาดำเนินการสร้างวัดต่อไป
เมื่อวันที่ ๑๒
เมษายน ๒๕๔๕ (ค.ศ. 2003) พระมหาทูลถวายได้กลับมาที่เมือง
West Palm Beach อีกครั้งหนึ่ง และรวบรวมญาติโยมชาวบ้านได้จำนวนหนึ่ง
เพื่อดำเนินการขอจดทะเบียนจัดตั้งวัด เดิมทีท่านมีความต้องการที่จะใช้ชื่อ “วัดมหาธาตุเจดีย์”
เพราะแรกเริ่มเดิมทีท่านได้พำนัก ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
โดยมีท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถระ)
เป็นพระอุปัชฌาย์ ด้วยความว่าเป็นศิษย์วัดมหาธาตุ
จึงอยากให้ชื่อวัดมีคำว่ามหาธาตุ และเพื่อความสวยงามทางด้านภาษา จึงตั้งชื่อวัดว่า
“มหาธาตุเจติยาราม” โดยมีผู้ลงนามขอจดทะเบียน ในเบื้องต้นจำนวน ๕ ท่านคือ
๑. พระมหาทูลถวาย วชิรญาโณ (Thoonthawai
Thuaprakhon)
๒. คุณสุนทรี สร้อยวัฒนา (Sundaree
Sroivattana)
๔.คุณจอร์น เวสเนฟสกี้ (John
Wesnefski)
๕. คุณประจวบ สุมนที (Prajuab
Sumonthee)
เมื่อปี พ.ศ.
๒๕๔๗ (ค.ศ. 2004)
หลังจากทำบ้านเช่าให้เป็นพุทธสถานได้ ๒ ปี เมื่อมีกำลังคน กำลังความคิด กำลังใจและกำลังปัจจัย
จึงได้จัดซื้อที่แห่งใหม่เพื่อใช้ในอุดมการณ์เดิม คือ “สร้างวัด”
สถานที่แห่งใหม่นี้มีเนื้อที่
๒.๕ เอเคอร์ มีบ้านหนึ่งหลัง มี ๔ ห้องนอน ๓ ห้องน้ำ
เพียงพอต่อพระธรรมทูตที่อยู่จำพรรษา และปฏิบัติศาสนกิจจำนวน ๔ รูป
และมีห้องพระขนาดเล็กที่ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาในเทศกาลสำคัญต่างๆ
ตลอดมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ทางวัดได้รับการสนับสนุนจากญาติโยมทั้งหลายทั้งชาวเวสต์
ปาล์ม บีช และที่อื่น ๆ ด้วยดีมาตลอดจนถึงปัจจุบัน นับได้ว่ามีญาติธรรมเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ เป็นนิมิตหมายที่ดีที่เราท่านทั้งหลายให้ความเอาใจใส่
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งของตนและของส่วนรวมสืบต่อไป
วัดมหาธาตุเจติยาราม
เมืองเวสต์ ปาล์ม บีซ รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา เป็นวัดไทยในสมาชิกสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา
ในลำดับที่ ๖๐ ได้ก่อตั้งสร้างขึ้นมาด้วยเหตุนี้
นักปราชญ์ท่านกล่าวไว้ว่า
“อยู่เพื่อตัวเอง อยู่แค่สิ้นลม อยู่เพื่อสังคม อยู่คู่ฟ้าดิน”
การที่ท่านพระมหาทูลถวาย เดินทางมาเพื่อสร้างพุทธสถานแห่งนี้
ก็เพื่อรักษาพระพุทธศาสนา ประเพณีและวัฒนธรรม
ไม่ให้เลือนลางจางหายไปจากสังคมคนไทยในต่างแดน
เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาวัดวาอารามให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น เคยได้ยินท่านกล่าวเสมอว่า
“การที่ผมได้มาเป็นเจ้าอาวาส ณ สถานที่แห่งนี้
ไม่ใช่ว่าผมจะมาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ แต่ว่าเรามารับภาระอันยิ่งใหญ่ต่างหาก”
และลำพังผมคนเดียวคงสร้างสถานที่อันล้ำค่าและศักดิ์สิทธิ์นี้ไม่ได้
เราต้องอาศัยความสามัคคีจากพุทธบริษัททั้งหลาย ทุกอย่างจึงจะสำเร็จและลุล่วงไปด้วยดีตลอดมา
คณะพระธรรมทูตที่เดินทางมาปฏิบัติศาสนกิจ
ณ วัดมหาธาตุเจติยาราม เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริด้า
เพื่อทำหน้าที่ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ให้เป็นศูนย์รวมจิตใจชาวพุทธไทยในต่างแดน
และชาวต่างชาติที่มีความสนใจใฝ่ในกัลยาณธรรม
ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายกว้างไกลมากยิ่งขึ้น
จากอดีตจนมาถึงปัจจุบัน
มีคณะพระธรรมทูตสายต่างประเทศ เดินทางมาปฏิบัติศาสนกิจ ณ วัดมหาธาตุเจติยาราม ได้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดตามลำดับ ซึ่งแต่ละพรรษามีพระธรรมทูตมาปฏิบัติศาสนกิจประจำพรรษาไม่ต่ำกว่า
๕ รูป ซึ่งในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ มีพระธรรมทูตมาปฏิบัติศาสนกิจจำพรรษามากที่สุด ๗ รูป มากที่สุดในการก่อตั้งสร้างวัดขึ้นมา
๒. ภาคผลงาน
ทางวัดมหาธาตุเจติยาราม
เมืองเวสต์ปาล์ม บีซ รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ได้ก่อสร้างตั้งวัดขึ้นมาในครั้งนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือ
การเผยแผ่พระพุทธศาสนา และเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวไทยและชาวต่างชาติ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางวัดได้สร้างผลงานและมีโครงการทำต่อเนื่องดังต่อไปนี้
๒.๑) ด้านการศึกษา
ทางวัดมหาธาตุเจติยาราม
สนับสนุนในด้านการศึกษาของเด็กและเยาวชนไทยในต่างแดน และชาวต่างชาติที่มีความสนใจ
ในด้านภาษาและวัฒนธรรมไทย จึงมีการจัดตั้งโครงการ “ศูนย์การศึกษา
ภาษาและวัฒนธรรมไทย” ขึ้น โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ร่วมกับ
วัดมหาธาตุเจติยาราม มองเห็นความสำคัญของภาษาและวัฒนธรรม
จึงได้จัดตั้งโครงการนี้ขึ้นมา
ในแต่ละปีทางมหาวิทยาลัยได้จัดส่งครูที่มีความรู้ความสามารถ ทางด้านภาษา ดนตรี
และวัฒนธรรมไทย เพื่อสะดวกในการถ่ายทอดความรู้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ส่วนทางวัดจะช่วยทางด้านค่าใช้จ่าย
เป็นระยะเวลา ๓ เดือน ในการทำการเรียนการสอน คือ ระหว่างเดือนสิงหาคม –
เดือนตุลาคม และจัดมอบ ประกาศนียบัตรให้ เพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจแก่นักเรียนเมื่อจบหลักสูตร ในการนี้ทางวัดก็มีการสอนธรรมศึกษาตรี โท เอก แก่คนไทยที่มีความสนใจในหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา และทางวัดก็ได้เพื่อส่งรายชื่อสอบธรรมศึกษาสนามหลวงเป็นประจำทุกปี
เพื่อเป็นการวัดและประเมินผลของกการศึกษา
๒.๒) ด้านการเผยแผ่
ทางวัดมหาธาตุเจติยาราม
มีแผนโครงการประจำปีด้านการเผยแผ่ เพื่อรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย
และได้ดำเนินตามแผนโครงการในแต่ละเดือน เพื่อให้คณะญาติธรรมได้มีโอกาสได้ทำบุญสร้างกุศล
ทำวัตรสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม และได้ฟังธรรมตามกาลอีกด้วย ทางวัดยังเป็นศูนย์กลางของชุมชนคนไทยในต่างแดน
สร้างความรักความสามัคคีให้เกิดมีในกลุ่มคนไทย เป็นสถานเชื่อมความสัมพันธ์
ติดต่อประสานงานในด้านต่างๆ ได้ดีเป็นอย่างยิ่ง คนไทยถึงจะอยู่ห่างไกลเพียงใดก็ตาม
แต่คำว่าวัดกับบ้าน บ้านกับวัด
ยังอยู่ในสายเลือดของเราลูกหลานไทยไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ท่านเหล่านั้นจะอยู่ในเชื้อสายศาสนาใดก็ตาม แต่ความเป็นไทย ประเพณีวัฒนธรรมไทย
ยังมั่นคงและถาวรต่อไป
นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติ
ได้เข้ามาสัมผัสอารยธรรมทางพระพุทธศาสนา
เพื่อศึกษาและปฏิบัติธรรมอย่างเป็นทางการในทุกเย็นวันเสาร์ พระพุทธศาสนาเป็นสมบัติอันล้ำค่าที่พุทธบริษัทจำเป็นต้องรักษา
และประพฤติปฏิบัติตามหลักธรรมด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังเป็นที่สนใจของชาวต่างชาติ
ที่ต้องการเรียนรู้เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติสืบต่อไป
ปัจจุบันชาวต่างชาติให้ความสนใจพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะกรรมฐาน (Meditation)
และเพื่อให้การปฏิบัติธรรมสัมฤิทธิ์ผลมากยิ่งขึ้น ทางคณะ ๕
ของวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์
ได้จัดส่งพระธรรมทูตที่มีความรู้เชี่ยวชาญด้านกรรมฐาน และสามารถสอนได้ทั้งไทยและอังกฤษ
มาช่วยด้านการเผยแผ่ได้เป็นอย่างดี
เป็นการเปิดโอกาสให้พระธรรมทูตทุกรุ่นที่มาปฏิบัติศาสนากิจ
ได้ฝึกและแสดงความสามารถในด้านภาษา ด้วยวิธีการสอนพระพุทธศาสนาให้กับชาวต่างชาติ
และยังสนับสนุนให้พระธรรมทูตได้ออกไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อจะได้นำความรู้ที่ได้มาปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
ทำเป็นแผนการสอนในอนาคต เพราะการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศสหรัฐอเมริกา
ไม่เพียงแต่ชาวไทยพุทธเท่านั้น ชาวต่างชาติก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน
๒.๓) ด้านสาธารณูปการและสาธารณสงเคราะห์
เมื่อปลายปี
ค.ศ.๒๐๑๓ (พ.ศ.๒๕๕๖) ทางวัดได้ซื้อบ้านและที่ดินเพิ่มขนาด
๑.๒๕ เอเค่อร์ จากเดิมที่มี ๒.๕
เอเค่อร์ จึงรวมเป็น ๓.๗๕ เอเค่อร์ บ้านสองหลัง
และโรงเก็บของขนาดใหญ่อีกสองหลัง ราคา $200,000 (ราคารวมค่าบูรณะซ่อมแซมใหม่ทั้งหลัง)
และกำลังปรับปรุงบริเวณรอบๆอาคารใหม่ให้เดินเวียนเทียนรอบตัวอาคารได้
และได้สั่งช่อฟ้าใบระกาปรับอาคารให้เป็นวิหาร
มีชื่อเรียกว่า “วิหารพระธรรมวิสุทธาจารย์)
ในด้านสารธารณสงเคราะห์
พระครูสุตญาณวิเทศ (ทูลถวาย วชิรญาโณ) ได้นำปัจจัยส่วนตัว และมีญาติโยมชาวเวสต์
ปาล์ม บีซ บางท่านได้ร่วมบริจาคเงินสมทบทุน เพื่อมอบเป็นทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนกับท่านด้วย ที่บ้านเกิดเมืองนอนของท่านเป็นประจำทุกๆ ปี
เพื่อเป็นกำลังใจให้กับนักเรียนที่เรียนดี จิตอาสา มีความประพฤติเรียบร้อย
กตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา
พระครูสุตญาณวิเทศ
เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุเจติยาราม
เมืองเวสต์ พาล์ม บีช,
รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา
* ปัจจุบัน คุณซาร่า ทิพฟัน
เดินทางไปอยู่ต่างรัฐ และทางวัดมีนโยบายเปลี่ยนกรรมการทุก ๒ ปี ตามใบ Law เพื่อทดแทนคนเก่าที่หมดวาระลง
และ คุณบุญเนื่อง Kalof ดำรงตำแหน่งแทน
คุณซาร่า ในปัจจุบัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น