ประวัติวัดพุทธาวาส

ประวัติโดยสังเขป วัดพุทธาวาส  นครฮิวส์ตัน

มลรัฐเท็กซัส  ประเทศสหรัฐอเมริกา

***********************

๑. การริเริ่มสร้างวัด

            เมื่อวันที่  ๒ มกราคม ๒๕๒๕  พระสุธีรัตนาภรณ์  ประธานสมัชชาสงฆ์ไทย ในสมัยนั้น (ปัจจุบัน เป็น พระพรหมวชิรญาณ) และพระมหาเฉลิม ปญฺญาธิโก วัดธัมมาราม นครชิคาโก  ได้รับอาราธนาจากชาวไทยในนครฮิวส์ตัน

และเมืองใกล้เคียง มาประกอบพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่บ้านชาวไทย ณ เมือง Missouri City ได้มีผู้มาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นครั้งแรกในนครฮิวส์ตันที่ชาวพุทธได้มีโอกาสทำบุญบำเพ็ญกุศลและมีพระสงฆ์มาร่วมพิธี

            หลังจากเสร็จพิธีแล้ว ได้มีการปรึกษาหารือกัน  โดยท่านเจ้าคุณพระสุธีรัตนาภรณ์  เป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้มีความเห็นร่วมกันว่า สมควรที่จะมีวัดขึ้นที่นครฮิวส์ตัน  เพราะมีพุทธศาสนิกชนชาวไทย ลาว และเขมร เป็นจำนวนมาก

พอที่จะมีวัดได้  ดังนั้นจึงได้ตกลงสร้างวัดขึ้นที่นครฮิวส์ตัน โดยมีจุดประสงค์หลัก คือ :

๐ เป็นศูนย์กลางของชุมชนชาวพุทธไทยและต่างชาติ

๐ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างแดน

๐ เพื่อเป็นแหล่งสืบทอดและเผยแผ่ประเพณีและวัฒนธรรมไทย

๐ เพื่ออบรมสั่งสอนเยาวชนไทยในต่างแดน

๒. การขอจดทะเบียน

            เมื่อวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๒๕  ได้มีการประชุม ซึ่งนับว่าเป็นประชุมครั้งที่ ๒ โดยมีท่านเจ้าคุณพระสุธีรัตนาภรณ์ เป็นประธาน ที่ประชุมได้พิจารณาถึงรายละเอียดต่าง ๆ ในการสร้างวัดโดย เฉพาะระเบียบของวัด ( By-Laws) เพื่อขอจัด

ตั้งให้ถูกต้องตามกฎหมายของบ้านเมืองและจดทะเบียนให้ถูกต้อง  จึงได้เลือกตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง  จำนวน ๗ ท่าน  ประกอบด้วยพระสงฆ์ ๓  รูป และฆราวาส จำนวน ๔ คน เป็นกรรมการอำนวยการ (Board of Directors)  และตั้งชื่อวัด

ว่า “ วัดพุทธาวาส”

            ในการขอจดทะเบียนที่ประชุมได้มอบหมายให้ คุณเดวิด  รูบิน เป็นผู้ติดต่อทนายเพื่อร่างและขอจดทะเบียนให้

เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรและมีสิทธิในการยกเว้นภาษี  ในการนี้ได้รับความช่วยเหลือจาก ทนาย Mr. Ted Wu  

เป็นอย่างดี   จนได้จดทะเบียนเป็นที่เรียบร้อย  เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๒๕ (1982)

๓. การเข้าเป็นสมาชิกสมัชชาสงฆ์ไทยฯ

หลังจากที่วัดพุทธาวาส ได้รับอนุญาตจัดตั้งเป็นวัดเรียบร้อยแล้ว นายธเนศ  รัศมีสุขานนท์ ได้ทำหนังสือพร้อมประวัติวัดเสนอต่อสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา เพื่อรับเข้าเป็นสมาชิกของสมัชชาสงฆ์ไทยฯ  และขอให้สมัชชาสงฆ์ ฯ จัดหาพระสงฆ์ไปอยู่ชั่วคราว   ก่อนที่จะนิมนต์พระสงฆ์มาจากประเทศไทยมาอยู่เป็นการถาวร   สมัชชาสงฆ์ฯได้รับเข้า

เป็นสมาชิกเมื่อคราวประชุมสมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ ๖ /๒๕๒๕  เมื่อวันที่  ๖ มิถุนายน ๒๕๒๕ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

เป็นวัดลำดับที่ ๙  ที่เข้าเป็นสมาชิกของสมัชชาสงฆ์ไทยฯ

๔. สถานที่ตั้งวัด

            ๔.๑  สำนักสงฆ์ชั่วคราว  ในระหว่างที่ยังไม่มีสถานที่ตั้งวัดถาวรนั้น คณะกรรมการได้จัดหาที่เป็นสำนักสงฆ์ชั่วคราว ณ บ้านเลขที่ ๒๐๐๒ Eastfield Circle, Missouri City, Texas เพื่อเป็นที่อยู่ของพระสงฆ์ และประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามโอกาสอันสมควร

            ๔.๒  ที่ตั้งถาวร  ในปลายปี พ.ศ. ๒๕๒๕  ได้ตกลงซื้อบ้านและที่ดินแห่งใหม่ อยู่ที่เลขที่  ๖๐๐๗  Spindle Drive, Houston, Texas 77086  ซึ่งมีเนื้อที่ ๑.๓ เอเคอร์  ราคา ๗๐,๐๐๐ เหรียญ เป็นที่ตั้งของวัดปัจจุบัน  โดยย้ายเข้ามาอยู่และประกอบพิธีเปิดเป็นทางการ  เมื่อวันที่  ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๒๖  โดยจ่ายเงินดาวน์  ๒๕,๐๐๐  เหรียญ

จ่ายผ่อนส่งในเวลา ๓๐  ปี    แต่ทางวัดจ่ายหมดในระยะเวลา ๕  ปี

            ดังนั้น ในปัจจุบัน วัดมีเนื้อที่ทั้งหมด  ๕.๘ เอเคอร์,  กฏิสงฆ์  ๔  หลัง, โรงเรียน  ๑  หลัง, ศาลาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล  ๑ หลัง, ศาลาโถงอาคารเปิด ๑ หลัง, ห้องน้ำหญิง-ชาย  ๑ หลัง, อุโบสถ ๑ หลังศาลาอเนกประสงค์ ๑ หลัง ,โรงอาคารเก็บส่งของ ๑ หลัง, และอาคารสำนักงานและห้องครัว ๑ หลัง

๕.  คณะสงฆ์ปฏิบัติศาสนกิจ

พระสงฆ์ที่อยู่จำพรรษา ในปี ๒๕๕๘

๑.พระเทพพุทธิวิเทศ (พระมหาประชัน   ชุตินฺธโร คำจันทร์) อายุ ๗๘ พรรษา ๕๗  น.ธ.โท, ป.ธ.๔, พธ.บ. ,MA, พ.ธ.ด.

๒.พระครูปลัดเคน  กมโล (นะทีศรี)  อายุ ๖๙ พรรษา ๔๘        น.ธ.เอก, ม.ศ.๓, อภิธรรมบัณฑิต

๓. พระครูสิริปัญญาวิเทศ (พระมหานวน  ชวนปญฺโญ ร่มมัย)      อายุ ๖๙ พรรษา ๔๗  น.ธ.เอก, ป.ธ.๕, พธ.บ.

๔.พระมหาเลข  ปุญญาคโม (เพลียโคตร) อายุ ๔๙ พรรษา ๒๙    น.ธ.เอก, ป.ธ.๗, พธ.บ. (รุ่นที่ ๓๗)

๕.พระมหาอภินันท์  นิพทฺธสนฺโต (มนตรี) อายุ ๓๕ พรรษา ๑๔    น.ธ.เอก, ป.ธ.๕, พธ.บ.

๖.พระครูปลัดหนึ่ง  ปญฺญาชีโว (ปัญญากุล)    อายุ ๔๐  พรรษา ๑๙  น.ธ.เอก, ประโยค ๑-๒, ม.๖

๗.พระแสงดาว  สิริปญฺโญ  (จันทะเทพ) อายุ ๕๔  พรรษา ๓๔    น.ธ.เอก, ม.ศ.๕

๖. การก่อสร้างอุโบสถศาลา

            ทางคณะกรรมการวัดเห็นว่าวัดมีที่ดินกว้างพอที่จะสร้างอุโบสถศาลาได้ จึงประชุมกรรมการอำนวยการเพื่อดำเนิน

การสร้างอุโบสถศาลา  ที่ประชุมมีมติให้ตั้ง"กรรมการเฉพาะกิจเพื่อดำเนินการก่อสร้างอุโบสถ" ซึ่งประกอบด้วย

            ๑. คุณนิยม  กรีบุตร                                              ๒. คุณกฤษฏี  พรหมอุบล

            ๓. คุณสุรินทร์ อโนมัยประเสริฐ                               ๔. คุณสุมิต  สุทธิประการ

            ๕. คุณณรงค์ รวดเร็ว                                             ๖. คุณพัฒนะ   ชาญศิริ

            ๗. คุณยงยุทธ รุจิรัชกุล                                        ๘. คุณทนงศักดิ์ ธรรมวัฒน์ไพศาล

          - มี คุณกฤษฎี พรหมอุบล  เป็นประธานดำเนินการก่อสร้าง

          - มี คุณสุรินทร์  อโนมัยประเสริฐ  เป็นผู้ออกแบบอาคารอุโบสถ

          - มีคุณ Mr. Bo Oen   เป็นผู้เขียนแบบอุโบสถ

๗. งานวางศิลาฤกษ์สร้างอุโบสถ

ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ อุโบสถศาลา เมื่อวันที่  ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๐ โดยมีท่านเจ้าคุณพระเทพประสิทธิมนต์ (ปัจจุบันเป็น พระพรหมวชิรญาณ) เป็นผู้ให้ฤกษ์ และเป็นประธานผู้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์งานก่อสร้างอุโบสถศาลา

          ได้เริ่มลงมือก่อสร้างเมื่อวันที่  ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๑  โดยการรับเหมาเป็นช่วง ๆ ไป สิ้นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง  รวมทั้งสิ้นประมาณ   $ ๑,๐๐๖,๕๐๐  เหรียญสหรัฐ  จนสร้างแล้วเสร็จลงในปี พ.ศ.๒๕๔๕ และได้ทำการผูก

พัทธสีมาฉลองอุโบสถในปีเดียวกัน

๘. งานพิธีผูกพัทธสีมา-ฝักลูกนิมิต-ฉลองอุโบสถ

            จัดงานพิธีผูกพัทธสีมา-ฝักลูกนิมิตอุโบสถ   เมื่อวันที่ ๒๒-๒๓  มิถุนายน  พ.ศ. ๒๕๔๕  โดยพระเดชพระคุณ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม วัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  ฯพณฯ ศักดิ์ทิพย์  ไกรฤกษ์  เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นประธานฝ่ายฆราวาส  และพระพรหมวชิรญาณ  ประธานโครงการสร้างวัดพุทธาวาส  กรรมการมหาเถรสมาคม  เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรุงเทพมหานคร  เป็นประธานจัดงาน

๙. งานพิธียกฉัตรพระประธาน-บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและเปิดผ้าแพรคลุมหน้าบันอุโบสถ พระนามาภิไธย สก.

            สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ  พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฏราชกุมาร  เสด็จประกอบพิธียกฉัตรพระประธานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ  ณ  พระเกศโมลีองค์พระพุทธมหามงคล ประธานประจำอุโบสถ  และเปิดผ้าแพรคลุมหน้าบันอุโบสถในพระนามาภิไธย สก. เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม  พ.ศ. ๒๕๔๕  โดยมีพระเดชพระคุณ

ท่านเจ้าคุณ พระพรหมวชิรญาณ  เจ้าอาวาสวัดยานนาวา  เป็นประธานจัดงานฝ่ายสงฆ์

๑๐. การบริหารงานของวัด

      ในการดำเนินการกิจต่าง ๆ ของวัด โดยคณะกรรมการ เรียกว่า "กรรมการอำนวยการ" (Board of Directors)  ซึ่งประกอบด้วยพระสงฆ์ที่อยู่จำพรรษาในปีนั้น ๆ และฆราวาสที่ได้มาจากการเลือกตั้งจำนวน  ๔ คน (ปัจจุบันเป็นจำนวน

๘ คน ตามระเบียบวัดที่แก้ไขใหม่) อยู่ในตำแหน่งคราวละ  ๒ ปี และ"กรรมการอำนวยการ" ต้องเลือกกรรมการขึ้นมา

อีกคณะหนึ่ง เรียกว่า "กรรมการบริหาร" ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน (ปี ๒๕๕๙) มีคณะกรรมการวัดมาแล้ว รวมเป็น ๑๘ ชุด

คณะกรรมการอำนวยการและกรรมการบริหาร ชุดที่  ๑๘  (พ.ศ ๒๕๕๗-๒๕๕๙)  ชุดปัจจุบัน

          ๑. พระเทพพุทธิวิเทศ                     ประธานกรรมการอำนวยการ, กรรมการรับผิดชอบด้านการเงินของวัด

          ๒. พระครูปลัดเคน  กมโล            กรรมการอำนวยการ  พระวิปัสสนาจารย์-พระอภิธรรม

                                              กรรมการฝ่ายพัฒนา-วางแผน, บูรณาการและโยธาธิการ

            ๓. พระมหานวน  ชวนปญฺโญ                     กรรมการ

            ๔. พระมหาเลข  ปุญฺญาคโม                      กรรมการ

            ๕. พระครูปลัดหนึ่ง  ปัญญาชีโว                    กรรมการ

            ๖.พระมหาอภินันท์  นิพทฺธสนฺโต                   กรรมการ

          ๗. คุณชัชวาล  ท้าวอุตม์                        กรรมการ

          ๘. คุณสะอาด  ศรียรรยงวัฒน์                  กรรมการ

          ๙. คุณสารภี  Walters                         กรรมการ

          ๑๐. คุณพเยาว์  ชาญศิริ                        กรรมการ

          ๑๑. คุณวีรศักดิ์  โอตรวรรณะ                  กรรมการ

          ๑๑. คุณสมพิศ  Henson                     กรรมการ

          ๑๓. คุณณัฏฐยา  Smith                       กรรมการ

          ๑๔. คุณขจรเกียรติ  ลิ้มมณี                   กรรมการ

๑๑. กิจกรรมต่างๆของวัด

๑๑.๑. กิจกรรมทางศาสนา

๑.๑.  จัดงานวันสำคัญทางศาสนา และวันสำคัญประเพณีประจำปี  เป็นประจำทุกปี

๑.๒.  จัดให้มีการบวชธรรมจารี-ธรรมจาริณี (ในวันมาฆบูชา-วิสาขบูชาและวันเข้า พรรษา-อาสาฬหบูชา)

๑.๓. จัดให้มีการศึกษาธรรม-ไหว้พระสวดมนต์ และปฏิบัติกรรมฐานทุกวันอาทิตย์

๑.๔. จัดทำเทปธรรมะแจกญาติโยมและสาธุชนทั่วไปปีละ ๑,๒๐๐  ตลับ

๑.๕. จัดพิมพ์วารสารของวัดปีละ   ๓  เล่ม พิมพ์ครั้งละ  ๑,๒๐๐  เล่ม

๑.๖. ไปบรรยายธรรมตามสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่มีคนหรือสถานศึกษานั้นเขาเชิญไป

๑๑.๒.  กิจกรรมทางสังคม

๑. เปิดโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์   

เพื่อให้การศึกษาอบรมเยาวชนไทยในต่างแดน ได้มีโอกาศศึกษาภาษา  ขนบธรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม

ของชาติ โดยเปิดดำเนินการมา  ตั้งแต่วันที่   ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๖ เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันเป็นระยะ ๓๓ ปี

๒. เข้าร่วมโครงการสอนภาษาไทยละวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดพุทธาวาส  ได้เข้าร่วมโครงการสอนภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ ภาคฤดูร้อน ของคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อ ปี พ.ศ.๒๕๓๗ โดยมีครูอาสาสมัครภาคฤดูร้อนมาทำหน้า

ที่ในการสอน นอกจากนี้เมื่อ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ ทางวัดได้ขอครูอาสาประจำการ ๑ ปี ได้มาทำหน้าที่เป็นครูอาสาสอนตลอดปี

๓. การสอนนาฏศิลป์ไทยและดนตรีไทย

            แผนกนาฏศิลป์ โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ได้เปิดสอนวิชาดนตรีไทยและนาฏศิลป์ไทยแก่นักเรียนและผู้

สนใจทั่วไป  ได้รับความมือจากชมรมนาฎศิลป์ และกลุ่มชมรมผู้ปกครองนักเรียน สมาคมนักเรียนไทยในนครฮิวส์ตัน  

มาช่วยอาสาทำหน้าที่ในการเรียนการสอน  เช่น

                ๑. คุณพเยาว์  พึ่งวงษ์      ๒. คุณสุพัตรา  อยู่โต                ๓. คุณฉลุทอง  จารุปานฑุ

          ๔.คุณสุจารี ยศสุนทร       ๕. คุณพูลสิน  กฤษณานุวัตร์         ๖.คุณกฤตยามนต์  โอฬาริก

๔. การสอนมวยไทยและกระบี่กระบอง

            ทางโรงเรียนได้เปิดให้มีการเรียนการสอนศิลปมวยไทย และกระบี่กระบอก-ฟันดาบ โดยได้รับความเอื้อเฟื้อจาก

คุณทัสสยุ  พุ่มสว่าง (ทัสสยุ ศ. คณิศร) และคุณดำริห์  พันธ์นุช (บุญฤทธิ์  ศิษย์สมิง) คุณสมชาย เคดี้  คุณรามอนด์  ปอนด์ คุณธเนศร์ ทวีชัย เป็นครูสอนมวยไทย ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว และคุณสุวิชช์ อิทธิปาทชัย  เป็นครูสอนกระบี่กระบอง-การฟันดาบ ให้แก่เด็กๆ นักเรียนอีกด้วย

                วัดพุทธาวาส  นครฮิวส์ตัน    ได้ทำหน้าที่เป็นที่พึ่งทางใจ เป็นสถานที่บำเพ็ญกุศล เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม  เป็นศูนย์ศิลปวัฒนธรรม   และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนชาวไทยและชาวพุทธต่างชาติมาโดยลำดับ ได้รับการสนับสนุนแรง

ศรัทธาจากสาธุชนพุทธบริษัททั้งหลายเป็นอย่างดีมาตลอด หวังว่าวัดพุทธาวาสจะได้รับความอุปถัมภ์จากสาธุชนและจักเป็นศูนย์รวมของชุมชนชาวไทย-พี่น้องชาวลาว และเป็นที่พึ่งของชาวพุทธในสหรัฐอเมริกา ตลอดไปในอนาคต ฯ

**********